top of page
Search

บันทึกนอกวลา : มหรสพกลางคืน

  • Writer: HooMAi
    HooMAi
  • Mar 5, 2020
  • 1 min read

ครั้งนึง ข้าพเจ้าได้มีโอกาสไปเดินเล่นเเถวตลาดใหญ่ในตัวเมืองจังหวัดเชียงราย ตลาดนี้อยู่ห่างจากบ้านพักข้าพเจ้า 25กิโลโดยประมาณ ที่แห่งนี้ถูกจัดขึ้นทุกวันเสาร์และเมื่อถึงวันนั้น หนุ่มสาวไม่เว้นคนแก่จะพากันแต่งตัวตามสไตล์แฟชั่นในยุคสมัยที่ตนเองถนัด ต่างพากันมาชมแสงสีกันให้ล้นตลาด และเมื่อเราเดินลึกเข้าไปหน่อยก็จะพบเจอกับมหรสพขนาดยักษ์ที่ตั้งอยู่บริเวณลานกว้างโดยมีเวทีและเครื่องเสียงขนาดเท่ารถบรรทุกวางประกอบอยู่ข้างหน้า มีไฟดวงน้อยใหญ่ส่องและถูกห้อยไว้ทั่วอย่างสวยงาม ... นี่แหละ เสน่ห์ที่น่าอภิรมย์ของที่นี่ เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นใครแต่ถ้าคุณเกิดนึกสนุก คุณสามารถเข้าร่วมวงเต้นรำของมหรสพครั้งใหญ่นี้ได้ ขณะนี้ ภาพที่ทุกคนเห็นคือวงเต้นรำที่มีผู้คนมากหน้าหลายตา ที่มากด้วยสไตล์การแต่งตัว ร่วมกันเต้นสนุกอยู่ข้างหน้าเวทีเครื่องเสียง ท่าทางและทำนองเพลงร่วมกันจนกลายเป็นหนึ่งท่าเต้น ข้าพเจ้าไม่แน่ใจว่ามีการซ้อมกันมารึเปล่า แต่ขณะนี้ทุกคนต่างเต้นไปในท่าที่พร้อมกันหมดคล้ายคนโดยสะกดจิต ข้าพเจ้าไม่ได้มีโอกาสเข้าไปร่วมวงมหรสพครั้งนี้หรอก เพราะเกรงจะเต้นไม่ทันเค้า เพราะฉนั้นแล้ว จึงเดินเลยส่วนตรงนี้ไป .... ตลาดนี้ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนใหญ่ๆ ส่วนแรก ที่สองข้างทางเบียดเสียดไปด้วยผู้คน ส่วนนี้เป็นที่ตั้งของมหรสพและรายล้อมไปด้วยร้านขายอาหาร.. ข้าพเจ้าต้องกำมือแน่นทุกครั้งเมื่อต้องเดินผ่านส่วนนี้ เพราะถ้าปล่อยมือให้ว่างละก็ มันจะหยิบจับเงินออกมาใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย... ทีนี้ พอลึกเข้าไปหน่อยจะผ่านส่วนที่สอง เราก็จะพบเจอมหรสพขนาดเล็กได้ตามริมทาง มีทั้งดนตรีเปิดหมวก กีต้าร์เปิดใจ งานเต้นรำของเด็กตัวเล็กๆ และดนตรีประจำถิ่น และที่น่าเฝ้ามองคือ ดนตรีของสมาคมคนตาบอด ซึ่งเป็นตัวแทนมานั่งดีดเครื่องดนตรีคล้ายกีต้าร์แต่เป็นของภาคเหนือ ข้าพเจ้าไม่ทราบชื่อของมัน ชายตาบอดผู้นี้มีเสียงจังหวะดนตรีจากเทปวิทยุที่เปิดคลอ คอยให้ทำนองเพลงพร้อมเพรียงไปกับเครื่องดีดที่กำลังเล่น ครั้งนี้ข้าพเจ้าไม่ได้สนใจอะไรนัก เพียงแค่มองด้วยความสงสารเวทนา .... แต่อีกครั้งครั้งที่ข้าพเจ้าเดินกลับมาพบ ชายผู้นี้กำลังเล่นเครื่องดีดพร้อมกับกลุ่มวัยรุ่นอีกสามคน เป็นผู้หญิงซะสอง ชายหนึ่ง กำลังเล่นเครื่องเป่า เครื่องสี และฉิ่ง เป็นจังหวะพร้อมไปกับเสียงเครื่องดีด... ต่างพากันเล่นดนตรีสนุกสนาน มีผู้ชมยืนรายล้อมพาให้ความสนใจ " ใครว่าโลกนี้มันเลวร้ายนักล่ะ.......... แหงล่ะ เอ็งก็พูดได้สิ!! เอ็งเกิดมาครบหนิ โลกของข้าที่ไม่มีโอกาสได้เห็นแม้แต่เครื่องดนตรีที่ข้ารัก รึสิ่งที่ข้าจับ รึสิ่งที่ข้ารู้จักแค่ชื่อเรียก โลกนี้มันเลวร้ายสำหรับข้าเสมอแหละ แต่นี่คือสิ่งที่ข้ามอบให้เอ็งได้ อย่างน้อยก็มอบส่งให้คนรอบๆได้ คนอย่างข้าที่ส่งมอบสิ่งๆหนึ่งเพื่อใครคนอื่น ... ขอบคุณเหล่าวัยรุ่นพวกนั้นที่ร่วงวงดนตรีเล็กๆนี่ จนเกิดเป็นมหรสพชิ้นหนึ่ง ขอบคุณเสียงปรมมือทั้งหลายที่ทำให้ข้ายิ้มได้ รอยยิ้มที่เป็นคะแนนสำคัญสำหรับชีวิตข้า...ขอบคุณพวกท่าน "... รอยยิ้มข้าพเจ้าเกิดขึ้น พร้อมกับเสียงปรมมือที่ดังกลบเสียงแม่ค้าในตลาด .....อย่างน้อยวันนี้ ชั่วโมงนี้ ที่นี่ ตรงนี้ ก็ยังมีคนทำเรื่องดีๆให้เกิดขึ้น.. มันน่ายินดียิ่งนัก ..... .... ... .. . " หากมัวแต่พูดว่าโลกนี้มันเลวร้ายเกินไป นั้นเป็นเพราะคุณอาจยังไม่ลองมองจุดดีๆ ส่วนที่ดี ก็ได้นะครับ รอยยิ้มมันสร้างได้ ถึงแม้มันจะไม่ง่ายก็ตาม "

 
 
 

Comments


© Design by HooMAi.

bottom of page